Team Thailand | 10.Nov.2020 | ไทย
ทริปครั้งนี้วางแพลนมาอย่างแน่น แต่ฝนตกพรำๆทั้งวัน แล้วเราจะได้ไปไหนกันบ้างนะ ตามมาดูไปพร้อมกันเลยดีไหม
เรามาถึงที่ต้นจามจุรียักษ์ตอนช่วงเกือบสาย ต้นไม้ใหญ่เขียวชอุ่มที่มีอายุกว่า 100 ปีแผ่กิ่งก้านสาขาอลังการรอให้คนมาชมความยิ่งใหญ่ ปัจจุบันมีการทำสะพานล้อมเป็นทางเดินเพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวเหยียบรากต้นไม้แล้ว น่าเสียดายนิดหน่อยที่จะไม่ได้ใกล้ชิดกับต้นไม้เหมือนเมื่อก่อน แต่ก็เป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติไว้ให้อยู่กับผู้คนได้อีกนาน
แวะให้อาหารเหล่าน้องแพะผู้หิวโหย
ก่อนไปที่พัก ก็ไปแวะทานข้าวที่ร้านอาหารคีรีธารากันก่อน
บรรยากาศร้านอาหาร
ด้วยความหิว รูปอาหารเลยเป็นอย่างที่เห็น กินก่อนถ่ายรูปอาหารไปอีก
มองเห็นสะพานข้ามแม่น้ำแควจากที่นั่งในร้านเลย
ที่พักในทริปนี้คือ “หินตกริเวอร์แคมป์” พอเรามาถึงก็เหมือนได้มาตั้งแคมป์กางเตนท์ในป่ากันจริงๆ บรรยากาศร่มรื่นมาก เมื่อเช็คอินเรียบร้อยและเข้าไปด้านในแคมป์ก็จะรู้สึกถึงความชื้นหนักมาก เพราะฝนตกตั้งแต่ระหว่างที่เดินทางมา ที่สำคัญเตนท์ที่พักก็เป็นเตนท์ติดแอร์ดีๆนั่นเอง ถ้าวันที่แดดออกก็จะนอนสบายกว่าวันที่ฝนตก รอบๆบริเวณที่พักก็จะมีแคร่ให้นั่ง มีเปลให้นั่งเล่น สูดออกซิเจนเต็มที่ ได้พักผ่อนหย่อนใจสุดๆ
บรรยากาศแคมป์ตอนกลางคืน
ที่พักมีจักรยานให้เช่าฟรี ในช่วงเช้าพวกเราเลยถือโอกาสนี้ทำปริปปั่นจักรยานไปกลับในระยะทางไม่ไกลนัก และปั่นไปจนถึงสะพานแขวนบ้านหาดงิ้ว หลังจากนั้นช่วงบ่ายก็กลับมา เตรียมตัวไปล่องแพกันต่อ
หยุดพักระหว่างทางที่โรงเรียนวัดหาดงิ้ว คุณครูคนนี้ดุมาก 555
หนึ่งแชะที่สะพานแขวนบ้านหาดงิ้ว
ทิวทัศน์ระหว่างล่องแพ
ท่ายากกำลังจะมา
4 หนุ่ม 4 มุม
ถ้ำกระแซ ทางรถไฟสายมรณะ สถานที่ท่องเที่ยวของกาญจนบุรีแห่งสุดท้ายที่พวกเราเลือกไปกันก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ตามปกติถ้าเป็นช่วงวันหยุดก็น่าจะมีนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลย แต่เป็นจังหวะดีที่พวกเราได้มาที่นี่กันในวันธรรมดา คนเลยไม่เยอะมาก เดินสวนกันไปตามทางรถไฟได้แบบสบายๆ
ไหว้พระถ้ำกระแซ
เดินตามหัวหน้าทัวร์
แวะดื่มอะไรเย็นๆที่ “แควคาเฟ่” ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ
Team Thailand