หนีร้อนเมืองไทยไปหาภูเขาหิมะมังกรหยก

Team Thailand | 04.Mar.2024 | จีน

ครั้งนี้เป็นทริปต่างประเทศครั้งแรกของบริษัทและสถานที่ๆจะไปเที่ยวกันอากาศก็หนาวมาก ไปสัมผัสความหนาวเย็น(ที่หาไม่ได้ที่ไทย) สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดที่เมืองจีนกันเถอะ!!

เหล่านกน้อยพร้อมออกโบยบิน

วันนี้ทางทัวร์เรียกทุกคนให้มารวมตัวที่สนามบินดอนเมืองกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า

ในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง ก็มาถึงสนามบินฉางสุ่ยเมืองคุนหมิงประเทศจีนแล้ว ขึ้นรถทัวร์ และสถานที่แรกที่ไปกันก็คือร้านอาหารแห่งนี้ มาทานมื้อเที่ยงเติมพลังกันที่นี่ก่อนเริ่มเดินทางต่อยาวๆ

รถทัวร์ที่เราใช้ตลอดทริปการเดินทาง

มื้อเที่ยงวันแรก

ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงก็มาถึงเมืองต้าหลี่ จากนั้นไปเดินเล่นที่เมืองโบราณเมืองต้าหลี่

เห็นว่าวันที่เดินทางมาถึงเป็นวันสุดท้ายของวันปีใหม่จีน เราเลยได้เห็นคนจุดพลุกันตอนกลางคืนแถวๆนี้ด้วย

ชมธรรมชาติอันสวยงามที่ลี่เจียง

เราออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าจะไปถึงเมืองลี่เจียง

จุดแวะพักระหว่างทาง

ผ่านไปสักระยะหนึ่งก็เริ่มเห็นวิวภูเขาแล้ว นี่แค่เห็นมาแต่ไกลก็ยังสวยมากๆ

วันนี้ยังอีกยาวไกล แวะทานมื้อเที่ยงกักตุนพลังงานกันที่นี่ก่อน

หน้าร้านอาหาร

เสร็จจากมื้อเที่ยง ไกด์พาพวกเราไปชมโชว์ Impression Lijiang ที่มีภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นฉากหลัง มีนักแสดงหลายร้อยคนทำการแสดงโชว์นี้

ภูเขาลูกใหญ่ที่เป็นฉากหลังมันเหมือนอยู่ใกล้พวกเรามากๆ ถึงจะมีแดดออกบ้างแต่อากาศหนาวมากและมีลมพัดเป็นช่วงๆทำให้รู้สึกหนาวมากขึ้นไปอีก ส่วนการแสดงและการแต่งกายก็ทำให้เราเห็นถึงวัฒนธรรมที่มีมาแต่ช้านานของผู้คนในเมืองลี่เจียง ถึงจะฟังไม่ออกว่าพวกเขาพูดอะไร แต่เราก็ยังรู้สึกประทับใจที่นักแสดงทุกคนพยายามกันอย่างเต็มที่ท่ามกลางอากาศหนาวแบบนี้

จากนั้นเราก็เดินทางขึ้นรถบัสของอุทยาน

แล้วก็นั่งกระเช้าต่อขึ้นไปที่ภูเขา

เห็นภูเขาอยู่ตรงหน้าแล้ว ต้องเดินเท้าต่ออีกนิด

ในที่สุดก็มาถึงภูเขาหิมะมังกรหยก วิวที่เห็นตรงหน้ามันสวยงามอลังการมากๆ ถ่ายรูปออกมาสวยยังไง ก็สู้ไปเห็นด้วยตาตัวเองไม่ได้จริงๆ

มาถึงถิ่นแล้ว ก็ต้องลองชิมเนื้อจามรีเสียบไม้ย่างร้อนๆกันสักหน่อย เนื้อย่างหอมๆควันฉุยๆท่ามกลางอากาศหนาวแบบนี้ก็เป็นธรรมดาที่จะเรียกลูกค้าได้ไม่ยาก ทำให้ร้านคุณลุงเลขายดีเทน้ำเทท่ากันเลยทีเดียว

ลงจากภูเขาแล้วก็ยังมีไฮไลท์อีกที่หนึ่งที่เราไปกันต่อ ก็คือ หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน

น้ำทะเลสาบสีฟ้าใสกับภูเขาหิมะ พูดได้เต็มปากเลยว่าเป็นการรวมกันอย่างลงตัวที่สุดของสิ่งที่เรียกว่าธรรมชาติจริงๆ

มื้อเย็นวันนี้เป็นสุกี้แซลมอนที่ทุกคนรอคอย

ระหว่างทางไปเมืองโบราณลี่เจียงเดินผ่านอนุสาวรีย์ท่านเหมา เจ๋อตง และลงไปที่สถานีรถไฟใต้ดินที่มีร้านค้ามากมาย

บรรยากาศเมืองโบราณลี่เจียง

มีผู้ท้าชิงลองกินเต้าหู้เหม็น

เปิดโลกของกินแปลกๆที่จีน

วันนี้เราต้องเดินทางกลับคุนหมิงกัน ระหว่างทางมองเห็นทะเลสาบเอ๋อร์ไห่จากที่ไกลๆ

แวะทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหาร

แวะร้านครีมบัวหิมะ ของฝากของดังจากเมืองจีน

มื้อเย็นวันนี้เป็นหม้อไฟเห็ดสารพัดพิษ เอ้ย!สารพัดชนิด

ที่จริงแล้วมื้อหม้อไฟวันนี้มีเห็ดมีพิษที่กินได้อยู่ด้วย แต่ต้องปรุงอย่างถูกวิธีโดยพนักงานที่ได้รับการอบรมแล้วถึงจะกินได้อย่างปลอดภัย หม้อแรกพนักงานให้เรารออย่างต่ำ 15 นาที พอตักซุปเห็ดกินกันคนละถ้วยแล้ว ก็มีเนื้อและผักสดตามมาเสิร์ฟต่อ

จากนั้นก็ไปเดินเล่นที่ตลาดนัดคนเดินเมืองคุนหมิง

ที่นี่ขายสตรีทฟู้ดหลากหลายเชื้อชาติ มีทั้งของกินที่เราคุ้นตาและไม่เคยเห็นมาก่อนเยอะแยะมากมาย

กล่องสุ่มราคากล่องละ 10 หยวน ที่ไกด์บอกว่าจะลองซื้อเล่นขำๆดูก็ได้ แต่ว่าจะได้ของอะไรก็แล้วแต่ดวงจะนำพา…

จนกว่าจะพบกันใหม่

วันนี้เป็นวันที่เดินทางกลับไทยแล้ว ระหว่างทางไปสนามบินก็ชมวิวเมืองไปพลางๆ

ประเทศจีนยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆที่น่าสนใจรอการค้นพบอีกหลายที่ และตั้งแต่เดือนมีนาคมปีนี้ ประเทศไทยจะได้รับสิทธิ์ฟรีวีซ่าสำหรับเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจีนสูงสุดถึง 30 วัน เป็นการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางท่องเที่ยวจีนได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้เราก็ยังคาดหวังการเดินทางที่สะดวกสบายมากขึ้นในอนาคตไปพร้อมๆกันด้วย

บ๊ายบายประเทศจีน〜

 

ผู้เขียนบทความ

Team Thailand

บทความใกล้เคียง